เมื่อลูกติดจอมากเกินไป ??
🙌 ต้องยอมรับว่า เทคโนโลยีช่วยให้คุณพ่อคุณแม่ยุคใหม่เลี้ยงลูกด้วยความสะดวกสบายมากขึ้น ใช้เป็นสื่อการสอนให้กับลูกๆได้ และช่วยได้อีกหลายๆอย่างเลยค่ะ แต่ๆๆๆๆ .. อะไรที่มากไปมันก็ไม่ดี ถูกไหมคะ ?
ทั้งเสี่ยงต่อพัฒนาการด้านการสื่อสาร เสี่ยงสมาธิสั้น แถมยังไม่ดีต่อดวงตาด้วยค่ะ
เรามาดูวิธีแก้ สำหรับเด็กๆที่ติดจอกันค่ะ !!
1. พ่อแม่ต้องเป็นตัวอย่างที่ดีให้กับลูกๆ
หากต้องควบคุมพฤติกรรมของลูกน้อย พ่อแม่ก็ควรจะต้องมีวินัยและเป็นตัวอย่างที่ดีให้กับลูกเสียก่อน นอกจากจะได้แสดงให้ลูกเห็นแล้ว การที่พ่อแม่วางโทรศัพท์มือถือลง ก็จะทำให้มีเวลาไปดูแลลูกมากขึ้นด้วย
2. ให้เล่นได้ แต่อย่าให้เป็นเจ้าของ
เพราะถ้าหากลูกเริ่มรู้สึกว่าตัวเองเป็นเจ้าของสิ่งนั้นแล้ว เขามักจะโมโหเวลาพ่อแม่สั่งให้หยุดเล่น จนทำให้ไม่สามารถควบคุมการใช้งานของลูกได้เลย
3. กำหนดเวลาเล่น
ควรกำหนดเวลาเล่นให้ชัดเจนไปเลย เพื่อเป็นการฝึกระเบียบวินัยให้กับลูกด้วย
โดยปกติแล้วไม่ควรให้ลูกเล่นโทรศัพท์มือถือตลอดทั้งวัน และควรตกลงกับเด็กๆให้ชัดเจน ว่าวันที่มีเรียนเล่นได้กี่ชั่วโมง วันหยุดจะเพิ่มให้กี่ชั่วโมงค่ะ
4. กฎเป็นกฎ อย่าใจอ่อน
พ่อแม่บางคนอาจจะใจดี ตามใจลูก เวลาลูกแอบเล่นเกินเวลาที่กำหนดไว้ แต่นั่นไม่ใช่สิ่งที่ดีเลยค่ะ
เมื่อหมดเวลาตามข้อตกลงแล้ว กฎก็ควรเป็นกฎ ไม่มีการขอต่อเวลา ยึดตามข้อตกลงที่คุยกันไว้ตั้งแต่แรก ถ้าไม่ทำตามก็ต้องมีทำโทษหรือยึดเครื่องคืนบ้าง ให้เขาเข้าใจว่าพ่อแม่เอาจริง ลูกอาจจะมีหงุดหงิดบ้าง แต่ถ้าเราหัดจนเป็นนิสัย ลูกก็จะมีระเบียบวินัยขึ้นเอง
5. หากิจกรรมอื่นทำร่วมกัน
นอกจากโทรศัพท์มือถือหรือแท็บเลตแล้ว ยังมีกิจกรรมอื่น ๆ อีกมากมายที่ช่วยส่งเสริมพัฒนาการของลูกน้อยได้ ถ้าหากลูกเริ่มติดจอมากจนเกินไปแล้ว ให้ลองหากิจกรรมอื่นทำร่วมกันในครอบครัว อาจจะไปเที่ยวข้างนอกบ้าน ไปออกกำลังกายด้วยกัน หรือลองสังเกตจากเกมที่ลูกเล่น แล้วหากิจกรรมที่ใกล้เคียงกับเกมมาเล่นกับลูกแทน เพื่อให้ลูกละสายตาจากหน้าจอ ออกมาสนใจโลกแห่งความเป็นจริงมากขึ้น
หากทุกอย่างต้องอยู่ในความสมดุล ไม่มากไป ไม่น้อยไป ก็จะเป็นประโยชน์ต่อทุกฝ่ายนะคะ :]
ขอบคุณ : https://th.theasianparent.com/is-your-child-addicted-to-screens